ถาม - ตอบ ปัญหาการลงทะเบียน |
||
ข้อ |
คำถาม |
คำตอบ
|
1 |
ต้องการแสดงความจำนงจดทะเบียนศึกษาลักษณะวิชาต้องทำอย่างไร |
1.
วิชาที่เปิดบรรยายโดยคณะพาณิชย์ฯ แสดงความจำนง
และประกาศผลผ่านระบบ Internet www.bus.tu.ac.th 2.
วิชาที่เปิดบรรยายของคณะฯ อื่น โปรดดูข้อมูลจาก
3. สำหรับรายละเอียดวิชา
ตารางสอน ตารางสอบ และอื่นๆ โปรด ติดตามจาก
Web สำนักทะเบียนฯ www.regofc.tu.ac.th |
2 |
ต้องการแสดงความจำนงจดทะเบียนศึกษาลักษณะวิชาของคณะพาณิชย์ฯ
ล่วงหน้า ต้องทำอย่างไรบ้าง |
คณะพาณิชย์ฯ
กำหนดให้นักศึกษาแสดงความจำนงขอ จดทะเบียน เป็น 3 รอบ รอบแรก
ให้นักศึกษาแจ้งความจำนงรายวิชาที่ต้องการจดทะเบียนเรียน รอบสอง
นักศึกษาที่ไม่ได้รับการจัดสรรครั้งที่ 1 แจ้งความจำนงขอจด
ทะเบียนครั้งที่ 2 (เฉพาะวิชาที่มีที่นั่งเหลือและมีการรับเพิ่ม) รอบสาม
นักศึกษาแจ้งความจำนงสำหรับวิชาที่มีที่นั่งเหลือ (ใช้เกณฑ์มาก่อนได้ก่อน)
สำหรับรายวิชาที่เปิดบรรยาย-กำหนดการที่เปิดให้แสดงความจำนง ในแต่ละรอบ รวมทั้งการแสดงความจำนงจดทะเบียนได้ทาง Internet ได้ที่ www.bus.tu.ac.th |
3 |
การจดทะเบียนเรียนถ้าไม่มีเงินในบัญชี
สามารถจดทะเบียนเรียนได้หรือไม่ |
นักศึกษาปกติทั่วไปไม่สามารถจดทะเบียนเรียนได้ต้องมีเงินในบัญชี เพียงพอกับค่าจดทะเบียน ประมาณภาคการศึกษาละ 12,000 บาท จดทะเบียน ต้องมีเงินในบัญชีอย่างน้อย 10 บาท |
4 |
ถ้าได้โควต้าวิชา แต่ไม่ได้จดทะเบียนภายใน วันที่สำนักทะเบียนฯ กำหนด เมื่อเปิดภาค จะขอยืนยันลงทะเบียนวิชาเดิมได้หรือไม่ |
จะขอยืนยันวิชาเดิมไม่ได้
เพราะระบบไม่ได้ล็อควิชาไว้ให้ นักศึกษา ต้องดำเนินการขอเพิ่มวิชาใหม่ ในช่วงจดทะเบียนเพิ่ม - ถอน โดยแบ่งเป็น 2 กรณี ดุลยพินิจของอาจารย์ผู้สอนว่าจะอนุญาตให้จดทะเบียนเรียนได้หรือไม่ โดยใช้บัตรสีฟ้า (ดูรายละเอียดในข้อ 6
การเพิ่มกรณีพิเศษ) |
5 |
การขอจดทะเบียนศึกษาลักษณะวิชาเพิ่ม สามารถทำได้กี่วิธี |
ในวันเปิดภาคการศึกษา
สำนักทะเบียนฯ จะประกาศรายวิชาที่ เปิดให้จดทะเบียนเพิ่มได้
ประมาณสัปดาห์ที่ 2 ของการเปิดภาคเรียน ถ้าวิชาไหนรับเพิ่มทาง
telebanking ให้นักศึกษากดยืนยัน
ลงทะเบียนได้เลยภายในวันที่สำนักทะเบียนฯ
กำหนดโดยดูราย ละเอียดจาก www.regofc.tu.ac.th |
6 |
การขอจดทะเบียนศึกษาลักษณะวิชาเพิ่ม กรณีพิเศษ วิชาคณะพาณิชย์ฯ สามารถทำได้หรือไม่ อย่างไร |
ถ้าวิชาไหน
งดรับ ให้นักศึกษาติดต่ออาจารย์ผู้สอน ซึ่งขึ้นอยู่ ในดุลยพินิจของอาจารย์ผู้สอน และภาค/สาขาวิชา ว่า
จะอนุญาตให้จดทะเบียนเรียนเพิ่มได้หรือไม่ ดำเนินการตามขั้นตอนดังนี้ เช่น นักศึกษา คณะวิศวฯ ขอบัตรฟ้าที่คณะวิศวฯ จะรับเพิ่มกรณีพิเศษให้หัวหน้าภาค/สาขาวิชา ลงนามว่าประสงค์อนุมัติ ให้รับเพิ่มได้ -
ภาค/สาขาวิชาส่งรายชื่อนักศึกษาที่อนุมัติรับเพิ่ม ที่ฝ่ายวิชาการคณะฯ เมื่อคณะอนุมัติเรียบร้อยแล้ว -
นักศึกษา นำบัตรฟ้าประทับตราคณะฯ ตามรายชื่อที่ได้รับอนุมัติ แล้วนำบัตรฟ้าไปชำระเงินที่เคาน์เตอร์
สำนักทะเบียนฯ ภายในวันที่ สำนักทะเบียนฯ กำหนด |
7 |
หากเปิดภาคการศึกษาแล้วแต่ยังไม่ได้จดทะเบียนเลยต้องทำอย่างไรบ้าง |
ดำเนินการจดทะเบียนเพิ่มในวันที่สำนักทะเบียนฯ กำหนด หาก ไม่สามารถดำเนินการในระบบ Telebanking ได้ให้ใช้บัตรสีชมพู และดำเนินการวิธีเดียวกันกับการขอเพิ่มวิชา ทั้งนี้นักศึกษาต้องรีบ ดำเนินการให้เร็วที่สุด
เนื่องจากนักศึกษาจะเสียค่าปรับค่าจดทะเบีย นล่าช้าวันละ 45 บาท เริ่มตั้งแต่วันที่สำนักทะเบียนฯ
กำหนดให้เพิ่มวิชาทาง Telebanking และหากไม่จดทะเบียนภายใน
30 วันนับจากวันเปิดภาคการศึกษาของภาคการศึกษาจะถูกถอนชื่อออกจากทะเบียนนักศึกษาในภาคการศึกษานั้น ดังนั้นถ้านักศึกษาจะไม่จดทะเบียนในภาคการศึกษาใด
นักศึกษาจะต้องทำเรื่องลาพักการศึกษาในภาคการศึกษานั้น |
8 |
หากทำรายการผ่านระบบแล้ว
แต่เงินในบัญชีไม่ถูกหักถือว่าลงทะเบียนเรียบร้อย หรือไม่ |
หากกดยืนยันลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว แต่เงินในบัญชีไม่ถูกหัก ถือว่าไม่สามารถลงทะเบียนได้ ให้รีบติดต่อสำนักทะเบียนฯเพื่อ ตรวจสอบโดยด่วน |
9 |
การขอถอนวิชา จะติด W
หรือไม่ |
ถ้าถอนวิชาภายในวันที่สำนักทะเบียนกำหนดให้ถอนในระบบ Telebanking จะไม่ติดอักษร W แต่ถ้าหลังจากนั้น จะติดอักษร W |
10 |
การขอถอนวิชาต้องให้อาจารย์ผู้สอนเซ็น อนุมัติหรือไม่ |
การขอถอนวิชาอาจารย์ผู้สอนไม่ต้องเซ็น ทำได้ 2 กรณี
ถอนวิชาทาง Internet www.regofc.tu.acth ในช่วงที่กำหนด สำนักทะเบียนฯ
กำหนด ยกเว้น
ขอถอนวิชาเป็นกรณีพิเศษ ต้องให้อาจารย์ผู้สอน
เซ็นใบคำร้องด้วย |
11 |
ในกรณีวิชาที่อาจารย์ผู้สอนหลายคน ใน 1 วิชา จะให้ใครเซ็นอนุญาตให้จดทะเบียนเพิ่ม |
ต้องให้อาจารย์ผู้ประสานงานเป็นผู้เซ็นอนุญาต
|
12 |
ทำไมไม่มีรายชื่อใน Class
list เวลาสอบ |
มีหลายกรณีดังนี้ 1.
จดทะเบียนเรียนในระบบไม่สำเร็จ 2. ขอเพิ่มวิชาเป็นกรณีพิเศษล่าช้า
สำนักทะเบียนฯ ยังไม่ได้ ทำรายชื่อลงใน Classlist
ต้องรีบติดต่อสำนักทะเบียนฯ เพื่อตรวจสอบ ข้อมูลการลงทะเบียนก่อนสอบ
หรือขอดูรายชื่อที่อาจารย์ผู้สอน |
13 |
ลงทะเบียนผิด Sec. ผิดกลุ่มต้องทำอย่างไร
|
ต้องทำเรื่องขอย้ายให้ถูกต้อง
โดยให้อาจารย์ผู้สอนเซ็นอนุญาต และเสียค่าธรรมเนียมการย้ายครึ่งจำนวนแต่ถ้าวิชาไหนคณะฯ สั่งปิด หรือ เปลี่ยนแปลงวิชานักศึกษาจะได้เงินคืนเต็มจำนวน |
14 |
ถ้าวันสอบตรงกันสามารถจดทะเบียน เรียนได้หรือไม่ |
สำนักทะเบียนฯ
ไม่อนุญาตให้จดทะเบียนเรียนหากวันสอบตรงกัน |
15 |
การจดทะเบียนศึกษาลักษณะวิชา ทำรายการในระบบใด |
โทร.1551 หรือ www.ktb.co.th/registration หมายเหตุ
ต้องมีเงินค่าจดทะเบียนในบัญชี ธนาคารกรุงไทย ภาคปกติ ภาคละประมาณ 12,000 บาท |
16 |
ลงทะเบียนเรียนระหว่างท่าพระจันทร์-รังสิตในวันเดียวกันต้องมีเวลาพักห่างกี่ชั่วโมง |
การลงทะเบียนเรียนระหว่างท่าพระจันทร์และรังสิต ในวันเดียวกัน ต้องมีเวลาพักห่างอย่างน้อย1 ชั่วโมง 30
นาที เช่น ช่วงเช้าเรียนรังสิต เวลา 11.00-12.30 น.
ตอนบ่ายจะเรียนท่าพระจันทร์ ต้องลงวิชาที่เริ่มเรียนเวลา 14.00 น. เป็นต้นไป |
ถาม - ตอบ ปัญหาทั่วไป |
||
ข้อ |
คำถาม |
คำตอบ |
1 |
นักศึกษาสายบริหารธุรกิจต้องแจ้งเข้าสาขา วิชาเอกเมื่อไหร่ |
เมื่อมีฐานะเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 2 ภาคแรก (สาขาวิชาเอกที่สามารถแสดงความจำนงได้
ดูในหน้าถัดไปค่ะ) |
2 |
หากต้องการย้ายสาขาวิชา สามารถดำเนินการ ได้เมื่อไหร่ |
เมื่อมีฐานะเป็นนักศึกษาชั้นปีที่
2 ภาคการศึกษาที่ 2 เป็นต้นไป ทั้งนี้ต้องเป็นไปตามเงื่อนไขการย้ายเข้าสาขานั้น ๆ ด้วย เช่น นักศึกษาสายบริหารธุรกิจต้องการย้ายสาขาวิชาเอกเป็นบัญชี
ต้องได้เกรดวิชา AC.201
และวิชา AC.311 B ขึ้นไป (ดูรายละเอียดและเงื่อนไขการย้ายสาขาได้ในหน้าถัดไปค่ะ) |
3 |
การ Drop W มีผลกับการได้รับเกียรตินิยม หรือไม่ |
การได้รับอักษร W ไม่มีผล
กับการได้รับเกียรตินิยม |
4 |
การจะได้รับเกียรตินิยมมีเกณฑ์อย่างไร |
นักศึกษาที่มีสิทธิ์ได้รับเกียรตินิยมอันดับ
1 1.
ได้ศึกษารายวิชาต่าง ๆ
ครบตามหลักสูตรภายในเวลาที่กำหนดไว้ในหลักสูตร 2.
ได้ค่าระดับเฉลี่ยสะสมสำหรับทุกรายวิชาไม่ต่ำกว่า 3.50 3. ไม่เคยได้รับระดับยังใช้ไม่ได้
(U) หรือต่ำกว่าระดับ C ในรายวิชาใดและ 4.
ไม่เคยศึกษาซ้ำในรายวิชาใด นักศึกษาที่มีสิทธิ์ได้รับเกียรตินิยมอันดับ
2 1.
ได้ศึกษารายวิชาต่าง ๆ
ครบตามหลักสูตรภายในเวลาที่กำหนดไว้ในหลักสูตร 2.
ได้ค่าระดับเฉลี่ยสะสมสำหรับทุกรายวิชาไม่ต่ำกว่า 3.50 3.
ได้ค่าระดับเฉลี่ยสะสมสำหรับวิชาเอกทั้งหมดไม่ต่ำกว่า
2.00 และ 4.
ไม่เคยศึกษาซ้ำหรือได้ระดับ F หรือระดับยังใช้ไม่ได้
(U) ในรายวิชาใด หรือให้แก่นักศึกษาที่
1.
ได้ศึกษารายวิชาต่าง ๆ
ครบตามหลักสูตรภายในเวลาที่กำหนดไว้ในหลักสูตร 2.
ได้ค่าระดับเฉลี่ยสะสมสำหรับทุกรายวิชาไม่ต่ำกว่า 3.25 3.
ไม่เคยได้ต่ำกว่าระดับ C สำหรับวิชาเอกแต่ละ 2.00 และ 4.
ไม่เคยศึกษาซ้ำหรือได้ระดับ F หรือระดับยังใช้ไม่ได้ (U) ในรายวิชาใด |
5 |
การแสดงความจำนงจดทะเบียนศึกษาลักษณะวิชาล่วงหน้าทาง Internet กับคณะฯ แล้ว แต่ตอนดูผล ทำไมระบบบอกว่าไม่ได้ขอ |
เนื่องจากอาจจะทำรายการไม่ครบถ้วน
หรือขอใน Section ที่ไม่ได้เปิดบรรยาย
การขอโควต้าวิชาทุกครั้งควรกลับเข้าไปตรวจเช็คข้อมูลให้แน่ใจว่าทำรายการถูกต้องครบถ้วน
เรียบร้อยแล้ว |
6 |
การเทียบโอนหน่วยกิต ต้องทำอย่างไรบ้าง |
ขอใบคำร้อง ให้อาจารย์ที่ปรึกษาลงนามพร้อมแนบเอกสารดังนี้ .
ใบเกรด เขียนรายละเอียดวิชาที่จะขอเทียบโอนว่าวิชาที่เรียนมาจากที่อื่น ตรงกับวิชาอะไรของ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ให้รีบดำเนินการเมื่อ
ฐานะชั้นปีที่ 1 ภายในเดือน มิ.ย.
) |
7 |
ทำไมบางวิชาที่เปิดสอนไม่อนุญาตให้นักศึกษานอกคณะฯ จดทะเบียนเรียน |
เป็นข้อจำกัดของสาขาวิชานั้น
ๆ เช่นให้สิทธิ์นักศึกษาคณะพาณิชย์ฯ จดทะเบียนเรียนก่อน
หรือเปิดบรรยายสำหรับนักศึกษาคณะพาณิชย์ฯเท่านั้น |
8 |
ลงทะเบียนเรียนได้มากที่สุดกี่หน่วยกิต |
- นักศึกษาชั้นปีที่ 1-3 จดทะเบียนเรียนได้มากที่สุดไม่เกิน 19 หน่วยกิต - นักศึกษาชั้นปีที่ 4 จดทะเบียนเรียนได้ไม่เกิน 21 หน่วยกิต ทั้งนี้ต้องลงทะเบียนล่วงหน้าไปก่อน 18 หน่วยกิต และทำเรื่อง ขออนุมัติเป็นกรณีพิเศษอีก 3
หน่วยกิต ในช่วงเปิดภาคการศึกษา |
9 |
ต้องลงทะเบียนวิชาในคณะฯ อย่างน้อย กี่หน่วยกิต |
ในแต่ละภาคการศึกษาต้องจดทะเบียนเรียนวิชาในคณะฯ
อย่าง น้อย 9 หน่วยกิต ยกเว้น
กรณีเจ็บป่วย หรือ นักศึกษาที่จะย้ายคณะฯ ให้ทำเรื่องเป็นกรณีพิเศษ |
10 |
วิชาเอก ถ้าได้เกรดต่ำกว่า C
ต้องรีเกรดหรือไม่ |
ต้องลงทะเบียนเรียนใหม่
ให้ได้เกรดไม่ต่ำกว่า C |
11 |
วิชาเอกถ้าได้เกรด D
หรือ D+ ที่เป็นพื้นฐานของวิชาอื่นเช่น
AC.313 เป็นวิชาบังคับก่อนของ AC.314 และได้เกรด AC.313
= D หรือ D+ สามารถเรียนวิชา AC.314 ได้หรือไม่ |
สามารถเรียนวิชา AC.314
ได้ แต่ถ้าสอบได้เกรด
F ในวิชา AC.313 ไม่สามารถเรียน AC.314 ได้ |
12 |
คณะพาณิชย์ฯ มีทุนการศึกษาอะไรบ้าง |
1. ทุนขาดแคลนทุนทรัพย์ ให้ติดต่อขอรับแบบฟอร์มที่งานบริการการศึกษาคณะฯ ทั้งนี้คณะฯ มีเงื่อนไขว่านักศึกษาที่ได้รับทุนการศึกษาต้องช่วยงานคณะฯ ด้วย |
13 |
วิชาที่ต้องผ่านวิชาพื้นความรู้ ถ้าเรียนควบคู่กันไปได้หรือไม่ |
เรียนควบคู่ไม่ได้
ต้องเรียนวิชาพื้นความรู้มาก่อน เช่น จะเรียน AC.311 ต้องสอบได้ วิชา AC.201 ก่อน |
14 |
วิชาที่เขียนบังคับว่า นักศึกษาคณะพาณิชย์ฯ ฐานะชั้นปีที่ 2
นักศึกษาปี 1 ลงเรียนได้หรือไม่ |
ไม่สามารถจดทะเบียนเรียนได้
ต้องมีฐานะเป็นนักศึกษาปี 2 ขึ้นไปเท่านั้น |
15 |
จะรู้ได้อย่างไรว่าวิชาไหนเป็นหลักสูตรเก่า
หรือ หลักสูตรใหม่ และจะเรียนได้หรือไม่ |
ในตารางบรรยายจะมีรายละเอียดแจ้ง เช่น
และมีเงื่อนไขเพิ่มว่านักศึกษาสายบริหารธุรกิจและรหัส 47 เท่านั้นถึง จะมีสิทธิ์จดทะเบียนเรียนได้ AC.413/AC.422
หลักสูตรเทียบกันได้
สามารถลงทะเบียนเรียนรวมกันได้ทั้งหลักสูตรเก่าและหลักสูตรใหม่
แต่เงื่อนไขของสาขาเขียน เพิ่มว่า เฉพาะนักศึกษาฐานะปี 4 ลงทะเบียนเรียนก่อน ดังนั้น
ควรดูในเงื่อนไขของแต่ละวิชาเพิ่มเติม ก่อนการแสดงความ จำนงจดทะเบียนล่วงหน้า |
16 |
นักศึกษารหัส 46 ไปเรียนต่างประเทศ 1 ปี กลับมาต้องเรียนหลักสูตร 46 หรือ 47 |
เรียนหลักสูตรใหม่ พ.ศ.
2547 |
17 |
ชื่อสาขาวิชา IT มีใหม่ชื่อว่าอะไร |
สาขาบริหารธุรกิจระหว่างประเทศ
โลจิสติกส์และการขนส่ง ชื่อใหม่นี้ใช้กับนักศึกษารหัส 2548
เป็นต้นไป |
การแจ้งเข้าสาขาวิชาเอก
เฉพาะนักศึกษาสายบริหารธุรกิจ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี
ฐานะชั้นปีที่ 2 ขึ้นไป
ที่ยังไม่ได้แจ้งเข้าสาขาวิชาเอกโปรดดำเนินการแจ้งเข้าสาขาวิชาเอกตามระยะเวลาที่คณะฯ
กำหนด
(การแจ้งเข้าสาขาวิชามีผลกับการแสดงความจำนงจดทะเบียนล่วงหน้า
ในทุกรายวิชาของคณะพาณิชย์ฯ
ในภาคการศึกษาต่อไป)
1. สาขาวิชาการเงิน
2. สาขาวิชาการตลาด
3. สาขาวิชาการบริหารทรัพยากรมนุษย์และองค์การ
4. สาขาวิชาบริหารอุตสาหการและปฏิบัติการ
5. สาขาวิชาการบริหารการขนส่งระหว่างประเทศ
6. สาขาวิชาระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ
7. สาขาวิชาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
การขอย้ายสาขาวิชาเอก
นักศึกษาที่ต้องการย้ายสาขาวิชาเอก
ให้ดำเนินการได้ตั้งแต่ นักศึกษาที่มีฐานะเป็นนักศึกษา
ชั้นปีที่
2
ภาคการศึกษาที่ 2 เป็นต้นไป
และต้องเรียนครบตามเงื่อนไขของสาขาวิชานั้นๆ
ที่กำหนดไว้ดังนี้
สาขาวิชา |
เงื่อนไขการย้ายสาขาวิชาเอก |
1. การบัญชี |
1.
สอบได้ AC.201 และ AC.311 แต่ละวิชาไม่ต่ำกว่า B และ คะแนนสอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่ต่ำกว่าคะแนนสอบเข้าของนักศึกษาลำดับสุดท้ายสายบัญชีปีเดียวกัน
และสายเดียวกัน 2.
และต้องได้รับอนุมัติจากภาควิชาการบัญชี (เกณฑ์นี้ใช้กับนักศึกษา รหัส 46 เป็นต้นไป) |
2. การเงิน |
สอบได้วิชา FN.201 ไม่ต่ำกว่า C |
3. การตลาด |
สอบได้วิชา MK.201 ไม่ต่ำกว่า C (แก้ไขใหม่ เดิมกำหนดไม่ต่ำกว่า
B) |
4. การบริหารทรัพยากรมนุษย์ และองค์การ |
สอบได้วิชา HO.201 ไม่ต่ำกว่า C |
5.บริหารอุตสาหการและ ปฏิบัติการ |
สอบได้วิชา IM.203 ไม่ต่ำกว่า C |
6. การบริหารการขนส่งระหว่างประเทศ |
สอบได้วิชา IT.211 ไม่ต่ำกว่า B และวิชาบังคับของสาขาวิชาอีก 1 วิชา ไม่ต่ำกว่า C (เกณฑ์นี้ใช้กับนักศึกษารหัส
47 เป็นต้นไป) |
7. ระบบสารสนเทศเพื่อการ จัดการ |
สอบได้วิชา IS.201 และ IS.302 แต่ละวิชาไม่ต่ำกว่า C |
8. ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ |
สอบได้วิชา RB.211 ไม่ต่ำกว่า C |
·
ทั้งนี้จะต้องได้รับอนุมัติจากภาค/สาขาวิชา
ที่จะย้ายเข้าด้วย
ขั้นตอนการดำเนินการขอย้ายสาขาดังนี้
1. ขอรับคำร้องขอย้ายสาขาที่งานบริการการศึกษา
คณะพาณิชย์ฯ ท่าพระจันทร์ หรือ ศูนย์รังสิต
2. แนบใบเกรดสมบูรณ์
3. ผ่านความเห็นชอบจากอาจารย์ที่ปรึกษา
4. นำคำร้องที่ผ่านความเห็นอาจารย์ที่ปรึกษาเรียบร้อยแล้ว
ยื่นที่งานบริการการศึกษา
เพื่อดำเนินการส่งสาขาวิชา พิจารณาต่อไป
การย้ายเข้าคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี
1.
เกณฑ์การย้ายเข้าคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี
นักศึกษานอกคณะฯ ที่ประสงค์จะย้ายเข้าศึกษาในภาค/สาขาวิชาต่าง
ๆ ของคณะฯ จะต้องปฏิบัติตามเกณฑ์ที่คณะฯ กำหนดไว้ดังนี้
- มีคะแนนสอบเข้าสูงกว่าคะแนนสอบเข้าของนักศึกษาลำดับสุดท้ายของคณะฯ
และต้องเป็นคะแนนสอบเข้าในประเภท
วิชาเดียวกัน
สายเดียวกัน และปีเดียวกัน
- ต้องศึกษาอยู่ในคณะเดิมไม่น้อยกว่า
2 ภาคการศึกษาปกติ ทั้งนี้ไม่นับภาคที่ลาพัก ถูกให้พัก ถอนชื่อ
หรือลบชื่อ
จากทะเบียนนักศึกษา
- คะแนนเฉลี่ยวิชาพื้นฐานไม่ต่ำกว่า
2.50
- ศึกษาวิชาต่าง
ๆ ตามเกณฑ์ที่ภาค/สาขาวิชานั้น ๆ กำหนดไว้ในเกณฑ์การย้ายภาค/สาขาวิชา
ทั้งนี้ ให้มีผลบังคับใช้
กับนักศึกษาตั้งแต่รุ่นปีการศึกษา
2546 เป็นต้นไป
2.
การยื่นความจำนงพร้อมใบรายงานผลการศึกษา
สถานที่ : สำนักงานเลขานุการคณะที่นักศึกษาสังกัด
ทั้งศูนย์รังสิตและท่าพระจันทร์
เวลา : ให้ย้ายได้เมื่อนักศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 2 ภาค 2
เป็นต้นไปและให้อยู่ในดุลยพินิจของภาค/สาขาวิชาที่จะย้ายเข้าศึกษา
การเทียบโอนหน่วยกิต คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี
หลักเกณฑ์การเทียบโอนหน่วยกิต
คณะฯ ได้ถือปฏิบัติตามข้อบังคับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ว่าด้วยการศึกษา
ชั้นปริญญาตรี พ.ศ. 2540 และตามประกาศคณะ ฯ
เรื่องกำหนดเกณฑ์การเทียบโอน หน่วยกิตสำหรับนักศึกษาคณะพาณิชย์ฯ
เพิ่มเติม คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี
โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการประจำคณะฯ ในการประชุม ครั้งที่ 4 / 2542
เห็นควรเพิ่มเติมกำหนดเกณฑ์การเทียบโอนหน่วยกิตสำหรับนักศึกษาคณะพาณิชย์ฯ
จกที่กำหนดไว้ในข้อบังคับ
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ว่าด้วยการศึกษาชั้นปริญญาตรี พ.ศ. 2540 ข้อ 15 ดังนี้
1.
กรณีเทียบโอนจากสถาบันในสังกัด / ในกำกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
1.1 ให้เทียบโอนได้เฉพาะวิชาพื้นฐาน
1.2 จำนวนหน่วยกิตที่ให้เทียบโอน ต้องไม่เกิน 1 ใน 4 ของจำนวนหน่วยกิตรวม
1.3 โครงการที่เคยศึกษาอยู่เดิมต้องเป็นโครงการในลักษณะเดียวกัน เช่น
โครงการปริญญาตรี ภาคภาษาอังกฤษด้วยกัน หรือโครงการปริญญาตรีภาษาไทยด้วยกัน
2.
กรณีเทียบโอนจากสถาบันที่ไม่อยู่ในสังกัด / ในกำกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
2.1 จะต้องเป็นนักศึกษาที่ผ่านการสอบคัดเลือกเข้ามหาวิทยาลัยนั้นตามกระบวนการสอบคัดเลือกของทบวงมหาวิทยาลัย
2.2 ให้เทียบโอนได้เฉพาะวิชาพื้นฐาน
2.3 จำนวนหน่วยกิตที่ให้เทียบโอน ต้องไม่เกิน 1 ใน 4
ของจำนวนหน่วยกิตรวม
2.4 โครงการที่เคยศึกษาอยู่เดิมต้องเป็นโครงการในลักษณะเดียวกัน เช่น
โครงการปริญญาตรีภาคภาษาอังกฤษด้วยกัน หรือโครงการปริญญาตรีภาคภาษาไทย ด้วยกัน
3.
กรณีเป็นนักศึกษาที่เคยศึกษาในสถาบันต่างประเทศ
3.1 ต้องศึกษาในมหาวิทยาลัยที่ ก.พ. รับรอง
3.2 ให้เทียบโอนได้เฉพาะวิชาพื้นฐาน
3.3 จำนวนหน่วยกิตที่ให้เทียบโอนต้องไม่เกิน 1 ใน 4
ของจำนวนหน่วยกิตรวม
4.
กรณีอื่น ๆ
นอกเหนือจากนี้ให้นำเข้าคณะกรรมการประจำคณะฯ พิจารณาเฉพาะกรณี
หรือโทรศัพท์สอบถาม
ศูนย์รังสิต โทร.02-9869620-31 ต่อ 151-153
ท่าพระจันทร์ โทร.02-2264503 หรือ 02-6132253
Watchara : 22/10/48
คำแนะนำ |
การจดทะเบียนเรียนโดยใช้โทรศัพท์
ผ่านระบบคอมพิวเตอร์
(TELEBANKING) |
ขั้นตอนในการจดทะเบียนเรียน
|
1.
นักศึกษาที่ได้โควตาแล้ว ปรากฏวิชาโควตาในระบบ
ให้กดยืนยันโควตาทันที ไม่เช่นนั้นจะไม่ได้รับโควตา จดทะเบียนเข้าเรียนในรายวิชานั้นๆ คงเหลือในบัญชีอย่างน้อย 10 บาท เป็น 1201350(ตามเอกสาร TELEBANK
COURSE CODE) ระบบ Telebanking ด้วยโทรศัพท์แบบกดปุ่ม
เช่น มือถือ โทรศัพท์สาธารณะ ทั้งนี้หน่วยกิต สูงสุดจดได้ไม่เกิน ตามข้อบังคับ |
|
วิธีการจดทะเบียนฯ
|
1. กดหมายเลข 1551
โทรศัพท์เข้าศูนย์บริการกรุงไทยโทรธนกิจทั่วประเทศเข้าสู่ระบบของธนาคาร |
|
วิธีการสั่งพิมพ์หลักฐานการจดทะเบียน
|
1. กด 1551 จากเครื่องโทรสาร |
2. กด 8 บริการข้อมูลทางโทรสาร |
3. กด 1 บริการด้านบัญชีและการศึกษา |
4. กดเลขที่บัญชี 10 หลัก หรือ หมายเลขบัตร 16 หลัก |
5. กดรหัสประจำตัว 4 หลัก |
6. ปฏิบัติตามระบบเสียงคอมพิวเตอร์ |
|
หมายเหตุ
|
1. เมื่อนักศึกษายืนยันการชำระเงินเรียบร้อยแล้วตามที่กดจด
ทะเบียนฯไว้จะ ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงรายวิชาในระบบได้อีก ถ้าประสงค์จะเปลี่ยนแปลงให้ติดต่อขอเพิ่ม
หรือถอนวิชาตามวัน เวลา ในปฏิทินการศึกษา รวมค่าธรรมเนียม 10 บาททันที เฉพาะที่ทำรายการสำเร็จเท่านั้น |
การจดทะเบียนเรียนโดยผ่านระบบอินเตอร์เนท
(INTERNET REGISTRATION) |
ขั้นตอนในการจดทะเบียนเรียน
|
1. คำนวณเงินและฝากเงิน
เข้าบัญชีออมทรัพย์ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ให้เพียงพอกับการจดทะเบียน
โดยให้มีเงินคงเหลือในบัญชีอย่างน้อย 10 บาท |
|
วิธีการสั่งพิมพ์หลักฐานการจดทะเบียน
|
1. เลือกรายการสอบถามข้อมูลผลการจดทะเบียนฯ
จากเมนูหน้าต่างฝั่งซ้าย |
2. หน้าจอจะแสดงข้อมูลผลการจดทะเบียน
ชื่อ-สกุลนักศึกษา
รายวิชาที่ยืนยันการเลือก รายวิชาที่เลือกเพิ่มเติม จำนวนวิชา จำนวนหน่วยกิต
ค่าธรรมเนียม ค่าหน่วยกิต รวมจำนวนเงินรอชำระเงิน |
3. ให้นักศึกษาสั่งพิมพ์หน้าจอที่ปรากฎออกทางเครื่องพิมพ์
เพื่อเป็นหลักฐานในการยืนยันการจดทะเบียน |
|
กรณีมีปัญหาใดๆที่ไม่สามารถจดทะเบียนโดยผ่าน
2 ระบบข้างต้นได้
ขอให้นักศึกษาติดต่อคณะที่นักศึกษาสังกัด
เพื่อดำเนินการขออนุมัติคณบดีเป็นกรณีพิเศษ นำคำร้องที่ได้รับอนุมัติพร้อมบัตรไปยื่นที่สำนักทะเบียน
และชำระค่าธรรมเนียม โดยดำเนินการให้แล้วเสร็จตามกำหนดในปฏิทินการศึกษา |
มีข้อสงสัยเกี่ยวกับการจดทะเบียนทาง Telebanking ติดต่อหรือโทรศัพท์สอบถามที่
สำนักทะเบียนและประมวลผล
อาคารยิมเนเซี่ยม 3 โทร.02-9869086