go



1000top
วันพุธที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2546


ข่าวหน้าหนึ่ง

ทัศนะวิจารณ์

เศรษฐกิจการเงิน

ธุรกิจการตลาด

การเมือง

ไอที-อินเทอร์เน็ต

คุณภาพชีวิต

นวัตกรรม

ต่างประเทศ

กีฬา

จุดประกาย



เสาร์สวัสดี
จุดประกายวรรณกรรม

กรุงเทพวันอาทิตย์

@Taste

ยานยนต์

กรุงเทพไอที

Biz & Money

เนชั่นสุดสัปดาห์

ไขปัญหาภาษี



มองมุมใหม่ : เปิดเสรี...เพื่อผลประโยชน์ของใคร?

ผศ. ดร.รุธิร์ พนมยงค์
ผมขอขอบคุณทางกระทรวงพาณิชย์ ที่ได้เชิญผม ไปร่วมแสดงความคิดเห็น ในประเด็นที่ประเทศสิงคโปร์ ได้ขอให้ไทยเปิดเสรีทางด้าน Transport Logistics ซึ่งผมมองว่า เป็นสิ่งที่น่าสนใจอย่างมาก เพราะทำให้เรา เข้าใจมุมมองของสิงคโปร์ ได้อย่างดีขึ้น

สิ่งแรกที่ควรจะสังเกตก็คือ คำนิยามที่สิงคโปร์ใช้ เนื่องจากในความเป็นจริงแล้วนั้น คำว่า "Transport Logistics" นั้น ไม่มีความหมายที่แน่ชัด นั่นคือ สิงคโปร์ต้องการให้เปิดเสรีทางด้านการขนส่ง หรือเปิดเสรีทางด้านลอจิสติกส์กันแน่

การขนส่งเป็นหนึ่งในหลายๆ กิจกรรมในลอจิสติกส์ ซึ่งการที่สิงคโปร์ต้องการให้เปิดเสรีทางด้าน Transport Logistics นั้น จะมีความหมายว่าอย่างไรกัน หากเรามามองความเป็นจริงในปัจจุบันแล้วนั้น ผมก็ค่อนข้างจะแปลกใจกับการขอเปิดเสรีทางด้านนี้จากทางสิงคโปร์ เพราะในทางปฏิบัติแล้วนั้น บริษัทข้ามชาติที่เข้ามาทำกิจกรรมทางด้านการขนส่งหรือลอจิสติกส์เองนั้น ไม่ได้ถูกปิดกั้นโดยกฎหมายไทยแต่อย่างใด

เงื่อนไขที่สำคัญมีอยู่เพียงสัดส่วนการถือหุ้นที่ชาวต่างชาติไม่สามารถถือหุ้นในบริษัทเหล่านั้นได้เกิน 49% ซึ่งทุกประเทศก็ได้รับสิทธิที่เท่าเทียมกัน ยกเว้นประเทศสหรัฐอเมริกาเท่านั้นที่มีข้อตกลงพิเศษ แต่ในทางปฏิบัติแล้วนั้น บริษัทข้ามชาติต่างๆ ก็อาจจะมีคนไทยเป็นผู้ถือหุ้นแทนชาวต่างชาติเหล่านั้น ซึ่งก็เปรียบเสมือนว่า ชาวต่างชาติเหล่านั้นเป็นผู้ถือหุ้นเอง 100%

หากเป็นเช่นนี้แล้ว เหตุใดสิงคโปร์จึงต้องการให้มีการเปิดเสรีทางด้าน Transport Logistics สิงคโปร์เป็นประเทศที่มีข้อจำกัดทางด้านพื้นที่ โดยมีอุตสาหกรรมบริการหลัก คือ อุตสาหกรรมการขนส่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่าเรือสิงคโปร์ ซึ่งเป็นท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน

ในปัจจุบันสิงคโปร์กำลังถูกคุกคามจากท่าเรือในประเทศมาเลเซีย ซึ่งตั้งอยู่ฝั่งตรงกันข้าม โดยที่ท่าเรือในมาเลเซียมีการกำหนดราคาในการใช้บริการท่าเรือที่ถูกกว่า รวมถึงมีการให้สิทธิต่างๆ ที่ท่าเรือสิงคโปร์ไม่เคยให้กับสายเดินเรือที่มาใช้บริการ ทำให้สายเดินเรือใหญ่ๆ ไม่ว่าจะเป็นเมิร์กซีแลนด์ หรือเอเวอร์กรีน หันมาใช้บริการท่าเรือตันหยงของมาเลเซียแทนท่าเรือของสิงคโปร์

จากการที่สิงคโปร์ต้องพบกับข้อจำกัดทางด้านการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นนี้เอง ทำให้สิงคโปร์เริ่มมองว่า ไทยก็เป็นประเทศหนึ่งที่มีศักยภาพในการเป็นเส้นทางหรือประตูสู่อินโดจีน ซึ่งการที่สิงคโปร์เจรจาขอเปิดเสรีทางด้านบริการในส่วนนี้ ก็จะทำให้สามารถเชื่อมโยงเครือข่ายจากสิงคโปร์ไปสู่ไทยโดยใช้ระบบการจัดการ และระบบเทคโนโลยีสารสนเทศแบบเดียวกัน เพื่อให้ลูกค้าสามารถรู้สถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าของเขาได้

แต่ท่านผู้อ่านก็ต้องอย่าลืมว่า ปัจจุบันนี้ผู้บริโภคหรือผู้ที่จะมาใช้ระบบการขนส่งนั้น ต้องการบริการที่มีลักษณะเป็น one-stop service ซึ่งหากเราปล่อยให้สิงคโปร์สามารถเปิดเสรีได้ โดยใช้ระบบต่างๆ ของสิงคโปร์เองนั้น สิ่งที่จะเกิดตามมาก็คือ สินค้าทุกประเภทจะถูกส่งไปยังสิงคโปร์ก่อน และสิงคโปร์ก็จะสามารถควบคุมระบบได้ทั้งในภูมิภาคอาเซียน

ซึ่งผมเห็นว่า สิ่งนี้ไม่น่าจะเป็นสิ่งที่ดีสำหรับประเทศอื่นๆ เพราะแต่ละประเทศก็ควรที่จะสามารถสร้างอุตสาหกรรมทางด้านบริการของตนเองได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการขนส่งและลอจิสติกส์

ไทยเป็นประเทศที่มีความได้เปรียบทางด้านภูมิศาสตร์ มีที่ตั้งติดกับประเทศในแถบอินโดจีน รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานทางด้านเศรษฐกิจที่ดีกว่าเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งความได้เปรียบนี้ก็ทำให้สิงคโปร์มองเห็นว่า หากเขาสามารถควบคุมข้อได้เปรียบในส่วนนี้ได้ เขาก็จะสามารถเข้ามาถือหุ้นอย่างเสรีในบริษัทในประเทศไทย และให้บริการได้อย่างเต็มที่จากการที่ไทยยินยอมให้มีการเปิดเสรี

หากเราลองมาวิเคราะห์กันก็จะเห็นว่า ประเด็นไม่ได้อยู่ที่การเปิดเสรีทางด้านการขนส่ง หรือ logistics แต่ประเด็นที่แท้จริงน่าจะอยู่ที่ว่า สิงคโปร์ต้องการให้มีการเปิดเสรีในส่วนของการลงทุน นั่นคือ การอนุญาตให้บริษัทของสิงคโปร์สามารถถือหุ้นได้ 100% โดยไม่ต้องมีการสร้างแบบจำลอง เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายไทย

ตามความเป็นจริงแล้ว ถ้าจำเป็นที่จะต้องมีการเปิดเสรีกันจริงๆ ผมไม่อยากให้มีแต่สิงคโปร์เพียงประเทศเดียวที่มีสิทธิในการลงทุน 100% ผมเห็นว่า ควรจะให้สิทธิที่เท่าเทียมกันกับทุกประเทศจึงจะเป็นสิ่งที่ถูกต้อง นอกจากนี้ ควรให้โอกาสนักธุรกิจไทยในการดำเนินธุรกิจ โดยการปกป้องสิทธิของเราเองเอาไว้ในระดับหนึ่ง

ผมไม่ได้บอกว่า การถือหุ้น 100% ของชาวต่างชาติเป็นสิ่งที่ดี แต่ ณ ช่วงเวลาในขณะนี้ ถ้ามองในด้านของความพร้อมแล้วนั้น เราควรที่จะให้คนไทยได้มีบทบาทในการดำเนินธุรกิจภายในประเทศของตนเองก่อน

สิ่งที่น่าสนใจอีกประเด็นหนึ่งของการเปิดเสรีในแต่ละครั้ง ก็คือ ประเทศที่ขอให้มีการเปิดเสรี มักจะเป็นประเทศที่มีความได้เปรียบทางด้านบริการหรืออุตสาหกรรมนั้นๆ ที่ขอให้มีการเปิดเสรี แต่สำหรับส่วนที่ตนเองเสียเปรียบก็มักจะอ้างเหตุผลต่างๆ ในการปิดกั้น ทั้งการตั้งกำแพงที่เป็นมาตรการทางด้านเทคนิค หรือกฎระเบียบที่จะไม่ทำให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นมาได้

สิงคโปร์มีความได้เปรียบทางด้าน Transport และ Logistics แต่ความได้เปรียบนี้ มิใช่ความได้เปรียบโดยธรรมชาติ หากแต่เกิดจากการร่วมลงทุน และการรับเอาเทคโนโลยีจากประเทศอื่นๆ มา ซึ่งถ้าเงื่อนไขของการเปิดเสรีมีส่วนที่เกี่ยวข้องกับการถ่ายโอนเทคโนโลยีต่างๆ

ในส่วนนี้ผมไม่ค่อยมั่นใจเท่าใดนักว่า สิงคโปร์พร้อมที่จะถ่ายโอนเทคโนโลยีหรือไม่ รวมถึงเราควรให้โอกาสกับผู้ประกอบการในการเลือกที่จะรับเทคโนโลยีจากสิงคโปร์ หรือรับเทคโนโลยีโดยตรงจากประเทศต้นแบบ ไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา หรือยุโรปก็ตาม

นอกจากนี้ หากเรามองย้อนกลับไปก็จะเห็นว่า เมื่อมีการประชุมกันในแต่ละครั้ง โดยเฉพาะภายใต้กรอบของอาเซียนแล้วนั้น ทุกประเทศมักจะอ้างว่า ทุกประเทศในอาเซียนล้วนแต่เป็นพี่น้องกัน แต่ในความเป็นจริงแล้ว ก็จะพบว่า ประเทศทุกประเทศอีกเช่นกันที่พร้อมจะเอาเปรียบซึ่งกันและกัน เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศของตนเอง

ดังนั้น เราจึงควรต้องย้อนกลับมามองดูว่า การขอเปิดเสรีทางด้าน Transport Logistics เป็นการทำเพื่อประโยชน์ของใครกันแน่

เหตุใดไทยจึงไม่รักษาความได้เปรียบจากการเป็นประตูสู่อินโดจีนเอาไว้เสียเอง รวมถึงหากจำเป็นต้องเปิดเสรี เราก็ควรที่จะเปิดเสรีให้กับทุกประเทศที่มีศักยภาพ และควรกำหนดเงื่อนไขด้วยว่า ต้องมีการถ่ายโอนเทคโนโลยีต่างๆ ทั้งในด้านของการขนส่งและลอจิสติกส์ให้กับแรงงานไทย


กรุงเทพทัศนะ
เวทีสาธารณะสำหรับ การ แสดงความคิดเห็น ผู้อ่านสามารถ ส่งบทความพิเศษ รายงานพิเศษ รายงานการวิจัย รายงานจากภาคสนาม เรื่องราวร้องทุกข์ หรือ จดหมาย มาได้ที่นี่
ชื่อคุณ :
หัวข้อ :
ข้อความ :

หัวข้อ 5 อันดับ ล่าสุด
296 . ท่านมีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับการใช้ประกาศ  ก.บช  ฉบับที่  44  (พ.ศ.2544) [ 1 ]
295 . สมุยไม่ใช่บ้านหนูอีกแล้ว [ 6 ]
294 . สถานการณ์และอารมณ์ของคนกัมพูชาเหมือนเหตุการณ์  "14  ตุลาคม  2516  ตรงไหน [ 3 ]
293 . จับตาย  หรือ  สั่งตาย [ 6 ]
292 . การเกิดวิกฤตการณ์ปีพ.ศ.2540 [ 2 ]




About Us I Suggestion I Site Map I GetThaiFont | Contact Us I Privacy Policy

copyright @ 2000 Nation Group / Produced & Designed by : KT Internet Dept.
All Right Reserved, Contact us : ktwebmaster@bangkokbiznews.com