วันพุธที่
15 มกราคม พ.ศ. 2546 | ||
|
มองมุมใหม่: ของขวัญจากรัฐบาล ...... สู่ บทด. ผศ. ดร.รุธิร์ พนมยงค์
หากท่านผู้อ่านพอจะจำได้ ในช่วงแรกของการดำเนินการนั้น จะเป็นการร่วมมือกับสายเดินเรือ Cosco ของประเทศจีน แต่ในปัจจุบันการเจรจาดังกล่าวไม่ประสบผลสำเร็จ จึงได้มีการเจรจากับสายเดินเรือของอิตาลีแทน โดยให้เหตุผลว่า เป็นสายเดินเรือขนาดใหญ่ และสามารถให้การสนับสนุนได้ในส่วนของเส้นทางการเดินเรือ แต่ผมไม่แน่ใจรัฐบาลรับทราบหรือไม่ว่า บริษัท Lloyd Triestino นั้น กำลังจะถูกซื้อโดยสายเดินเรือเอเวอร์กรีน ของประเทศไต้หวัน ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทย กับประเทศจีนในอนาคต นอกจากนี้รัฐยังได้มีการขยายระยะเวลาของการดำเนินกิจการของ บทด. ออกไปอีก ในส่วนของวัตถุประสงค์ และเป้าหมายที่กำหนดขึ้นมาสำหรับแผนแม่บทของการพัฒนากิจการของ บทด.นั้น มีหลายประการที่น่าสนใจ ซึ่งท่านผู้อ่านควรที่จะต้องเข้าใจและรับรู้ เพราะนี่คือส่วนหนึ่งของภาษีประชาชนที่กำลังถูกนำมาใช้อย่างไร้เหตุผล ประเด็นแรก คือ วัตถุประสงค์ของการพัฒนา บทด.ในฐานะสายเดินเรือแห่งชาติ โดยมีเป้าหมายในการส่งเสริมศักยภาพกองเรือไทย ผมว่ามันเป็นคนละประเด็นกัน เพราะว่าการพัฒนา และส่งเสริม บทด.นั้นไม่ได้หมายความถึงการพัฒนาศักยภาพของกองเรือไทย ดังนั้น การที่บอกว่า การสนับสนุน บทด. ก็คือ การส่งเสริมศักยภาพของกองเรือไทยจึงเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง หากรัฐต้องการให้การสนับสนุนก็ควรเป็นการสนับสนุนผู้ประกอบการไทยจึงจะเป็นสิ่งที่ถูกต้อง นอกจากนี้สิ่งที่น่าเป็นห่วงอีกเรื่องก็คือ การที่รัฐนำเรื่องของสายเดินเรือแห่งชาติกับกองเรือพาณิชย์นาวีไทยมารวมเป็นเรื่องเดียวกัน เหมือนกับว่า รัฐไม่เข้าใจในธุรกิจพาณิชย์นาวีของประเทศไทย ประเด็นที่สอง คือ เป้าหมายที่ต้องการให้ บทด.พัฒนาไปสู่การเป็นผู้ให้บริการการขนส่งทางทะเลแบบครบวงจร ซึ่งมีลักษณะคล้ายคลึงกับผู้ให้บริการทางด้านลอจิสติกส์ ที่ให้บริการตั้งแต่จุดเริ่มต้นไปจนถึงจุดหมายปลายทาง ตามความเป็นจริงแล้วนั้น บทด.ก็สามารถทำได้ในขณะนี้ ไม่จำเป็นต้องมีเรือเป็นของตนเองดังเช่นในปัจจุบันก็ได้ ก็คือ การเป็นนายหน้า แล้วก็ไปเช่าระวางเรือ ถึงแม้ว่าจะไม่มีสิทธิที่จะกระทำได้ตามกฎหมายก็ตาม ผมมองว่าไม่เห็นมีความจำเป็นแต่อย่างใด เพราะในขณะนี้ก็ดำเนินการอยู่แล้ว โดยทำนอกกรอบของกฎหมายเท่านั้นเอง ประเด็นที่สาม ได้มีการกล่าวถึงการเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันที่แท้จริงของ บทด. อะไรคือความสามารถในการแข่งขันที่แท้จริงของ บทด. เนื่องจากว่า บทด.ไม่มีเรือเป็นของตนเอง แต่ได้รับสิทธิพิเศษต่างๆ ดังนั้น ผมจึงอยากจะถามว่า แท้จริงแล้ว บทด.มีความสามารถในการแข่งขันจริงหรือ ความสามารถในการแข่งขันของ บทด. ก็คือ การได้รับสิทธิพิเศษในการขนส่งสินค้าของหน่วยราชการ และรัฐวิสาหกิจ หรืออาจจะหมายถึง การเป็นนายหน้า และกินหัวคิวก็ได้ แต่ผู้ที่เสียประโยชน์ก็คือ ประชาชนในฐานะที่เป็นผู้เสียภาษี เพราะ บทด.สามารถคิดระวางได้ในอัตราที่สูงกว่า ผมเข้าใจในเหตุผลของรัฐบาลที่ต้องการจะลดดุลค่าระวางในการขนส่งสินค้าต่างประเทศ แต่ผมเห็นว่าไม่ควรจะทำด้วยวิธีการแบบนี้ การให้มีรัฐวิสาหกิจที่มีสิทธิพิเศษเหนือบริษัทอื่นๆ การแปรรูปรัฐวิสาหกิจของ บทด.นี้ ทำให้ผมนึกถึงบริษัท Logistika ของประเทศอินโดนีเซีย ที่ในอดีต หากใครต้องการทำธุรกรรมทางด้านลอจิสติกส์ในอินโดนีเซีย จะต้องผ่านบริษัท Logistika ซึ่งเป็นบริษัทที่มีความใกล้ชิดกับอดีตประธานาธิบดีซูฮาร์โต และมีอภิสิทธิ์ต่างๆ มากมาย ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า รัฐต้องการให้มีบริษัทลักษณะเช่นนี้หรือไม่ หากใช่ ก็ควรที่จะแสดงออกมาตรงๆ ไม่ควรนำมาเป็นข้ออ้างว่า เพื่อสนับสนุนกองเรือไทย เพราะสิ่งนี้มิใช่สิ่งที่สนับสนุนกองเรือไทยแต่อย่างใด นอกจากนี้ในการหาพันธมิตรนั้น มีอยู่ด้วยกัน 2 วิธี คือ วิธีแรก สายเดินเรือใหญ่เข้ามาซื้อสายเดินเรือที่มีขนาดที่เล็กกว่า ถ้าบริการชนิดนั้นๆ สายเดินเรือขนาดเล็กสามารถที่จะทำได้ดีกว่า การกล่าวอ้างว่า บริษัท Lloyd Triestino เป็นสายเดินเรือขนาดใหญ่นั้น ไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง เพราะสายเดินเรือนี้เป็นเพียงสายเดินเรือขนาดกลางเท่านั้น เมื่อเปรียบเทียบกับสายเดินเรือใหญ่ของโลก ไม่ว่าจะเป็นเมิร์ก ซีแลนด์ หรือ เอ็น.โอ.แอล. หรือเอเวอร์กรีน หรือ เอ็น.วาย.เค. ก็ตาม วิธีการที่สอง อาจทำได้ดังเช่นธุรกิจการบิน โดยไม่ต้องมีการถือหุ้น แต่เป็นการทำงานร่วมกันเท่านั้น สิ่งเหล่านี้สามารถที่จะทำได้ทั้งนั้น เพียงแต่ผมไม่เห็นความจำเป็นว่า ทำไมจะต้องนำสายเดินเรือต่างชาติเข้ามามีส่วนร่วมในสายเดินเรือแห่งชาติเท่านั้นเอง หากจะต้องมีการนำเอาสายเดินเรือต่างชาติเข้ามาจริง ทำไมจึงต้องเป็นสายเดินเรือขนาดกลางด้วย ทำไมจึงไม่เป็นสายเดินเรือขนาดใหญ่ ดังเช่นสายเดินเรือสิงคโปร์ หรือญี่ปุ่น เป็นต้น อีกประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจก็คือ ปัจจัยที่จะทำให้การพัฒนาสายเดินเรือแห่งชาติประสบความสำเร็จ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีท่าเรือสินค้าคอนเทนเนอร์เป็นของตนเอง สิ่งนี้ไม่มีความเกี่ยวข้องกันเลย การบริหารท่าเรือกับการใช้สิทธิบนท่าเรือเป็นสิ่งที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง หรือ บทด.คิดว่า ควรมีสิทธิในการบริหารท่าเรือ และสามารถให้ผู้อื่นมาใช้สิทธินั้นดังเช่นที่ทำอยู่ในปัจจุบันที่ บทด.มีสิทธิในเส้นทางการขนส่ง แต่ไม่มีเรือเป็นของตนเอง ซึ่งผมก็เห็นว่าสิ่งเหล่านี้ไม่เห็นจะเป็นเหตุผลที่จะมาสนับสนุนการแข่งขันที่แท้จริง (Core Competency) แต่อย่างใด แล้ว Core Competency ของสายเดินเรือแห่งชาติคืออะไร คำตอบ ก็คือ การมีเรือ และการให้บริการ การขนส่งทางทะเลเท่านั้น การมีท่าเรือเป็นของตนเองเป็นเพียงสิ่งที่จะมาสนับสนุนเท่านั้นเอง รวมถึงจะมีเหตุผลใดในการที่จะบอกว่าการใช้บริการของท่าเรือจะสามารถแข่งขันได้ เมื่อเปรียบเทียบกับท่าเรือเอกชนอื่นๆ สุดท้ายนี้ ผมอยากจะให้รัฐบาลลองคิดดูว่า คุ้มค่าไหมกับการให้ความคุ้มครองธุรกิจที่ไม่มีความพร้อมและศักยภาพในการแข่งขันต่อไปเรื่อยๆ หรือ ถ้ารัฐต้องการจะสนับสนุนธุรกิจพาณิชย์นาวีไทย ก็ควรให้การสนับสนุนผู้ประกอบการไทยจะดีกว่า การมี บทด. ไม่ได้เป็นสิ่งที่จะช่วยพัฒนาธุรกิจพาณิชย์นาวีแต่อย่างใด
|
กรุงเทพทัศนะ
หัวข้อ 5 อันดับ ล่าสุด
|
About Us I Suggestion I Site Map I GetThaiFont | Contact Us I Privacy Policy |
| |
copyright @ 2000 Nation Group /
Produced & Designed by : KT Internet Dept. All Right Reserved, Contact us : ktwebmaster@bangkokbiznews.com |